6 วิธีบรรเทาอาการแสบคอ-คันคอ จากฝุ่นพิษ PM2.5

6 วิธีบรรเทาอาการแสบคอ-คันคอ จากฝุ่นพิษ PM2.5    เมื่อเราหายใจเอาฝุ่นเข้าไปในปริมาณมาก ๆ อาการแรกที่สังเกตเห็นได้ชัดคือความรู้สึกระคายคอ แสบคอ แสบจมูก ไอแห้ง ๆ หรือบางคนก็จามติด ๆ กัน ซึ่งก็เป็นกลไกการป้องกันตัวเองของร่างกายที่พยายามจะขับเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการแสบคอ แสบจมูก คันคอ ไอแห้ง ๆ ล้วนเป็นความน่ารำคาญที่ใครก็ไม่อยากให้อยู่กับตัวเองนาน ๆ    1. ดื่มน้ำให้มาก ๆ     ในช่วงเวลาที่คันคอ แสบคอจากฝุ่น ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ (อย่างน้อย 6 แก้วต่อวัน) เพื่อให้น้ำเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุลำคอ ลดอาการระคายคอไปได้บ้าง    2. รับประทานอาหารอ่อน ๆ              ถ้าแสบคอมาก กินอะไรไม่ถนัด แนะนำให้กินอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ที่ไม่ร้อนจนเกินไป เพราะอาหารอ่อน ๆ จะช่วยให้กลืนง่าย คล่องคอมากขึ้นนั่นเอง   3. […]

ออกกำลังกาย มีผลต่อสมองเราอย่างไร

ออกกำลังกาย มีผลต่อสมองเราอย่างไร   หลายๆคนที่มาออกกำลังกายก็มุ่งหวังให้ร่างกาย และสุขภาพแข็งแรง แต่การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ดีๆที่ส่งผลไปถึงสมองของเราอีกด้วย   • ช่วยให้ความจำดี   การออกกำลังกายเป็นประจำ จะส่งผลดีต่อฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการทำงานสำหรับสมองของคนเราหลาย ๆ อย่าง เช่น ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทและเซลล์สมองได้ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาระบบไหลเวียนของออกซิเจนที่ช่วยในการหล่อเลี้ยงสมอง และพัฒนาเลือดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการศึกษาของแผนกจิตวิทยา ของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ชายช่วงอายุระหว่าง 18-24 ปี เมื่อได้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเป็นเวลา 30 นาที จะมีการตอบสนองในด้านความจำได้มากกว่าคนปกติที่ไม่ออกกำลังกายเลยอีกด้วย   • พัฒนาความคิดสร้างสรรค์   ผลศึกษาจากต่างประเทศระบุว่า การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้มีสุขภาพดีและสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้นกว่าปกติด้วย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยพัฒนาสมองซีกขวาที่เป็นจุดสำคัญในด้านของความคิด และจินตนาการของคนเรา เรียกได้ว่าการออกกำลังกายเปรียบเหมือนอาหารเสริมช่วยให้สมองบรรเจิดไอเดีย ทั้งหลายแหล่ขึ้นมาได้เลย     • ขจัดความเครียด   ความเครียด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคนและหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่หากว่าคุณออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถช่วยบรรเทาความเครียดให้ลดน้อยลง ได้บ้าง เพราะการออกกำลังกายจะช่วยปรับปรุงเรื่องของการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่อง ของการผ่อนคลายความเครียดได้มากยิ่งขึ้น ไม่เชื่อก็ลองออกไปวิ่งดูสิ รับรองเลยว่าแก้เครียดได้เป็นอย่างดีเลยแหละ • ช่วยปรับอารมณ์ให้คงที่ […]

เล่นเวท ควรจะเล่นกี่ครั้งต่อเซต ต่างกันอย่างไร?

เล่นเวท ควรจะเล่นกี่ครั้งต่อเซต ต่างกันอย่างไร?   เป็นคำถามที่พบได้บ่อย ๆ สมาคมแพทย์เวชศาสตร์การกีฬา แนะนำให้ เล่นเวท เซตละ 8-12 ครั้ง เพื่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ muscular strength และให้เล่น 10-15 ครั้ง ถ้าต้องการสร้างความทนทานของกล้ามเนื้อ muscular endurance. อย่างน้อย 1 เซต ในกล้ามเนื้อแต่ละมัด แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นมักจะเล่นกัน 2-3 เซต   เล่นเท่าไหร่ดีหล่ะ?   – เพื่อลดไขมัน : 1-3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง โดยใช้น้ำหนักที่มากพอจะทำให้เกือบจะยกครั้งหลัง ๆ ไม่ไหว – เพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้ใหญ่ขึ้น เล่นมากกว่า 3 เซต แต่ละเซต ยกให้ได้ 6-8 ครั้งด้วยน้ำหนักที่ทำให้ยกครั้งหลัง ๆ เกือบไม่ไหว สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเล่น ควรจะใช้วิธีนี้เมื่อผ่านไปแล้วเป็นเดือน – […]

Sauna หรือ Steam ต่างกันอย่างไร ?

Sauna หรือ Steam ต่างกันอย่างไร?   การอบไอน้ำทำงานโดยกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย คือมีอุณหภูมิพอเหมาะ (40-60 องศาเซลเซียส) และมีค่าความชื้นสูงสุดคือ 100% ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและขจัดสารพิษออก   ในขณะที่ซาวน่ามีอุณหภูมิร้อนกว่า (มากสุด 80 องศาเซลเซียส) และแห้งกว่า การสลับระหว่างอบซาวน่าและอาบน้ำเย็นทำให้เกิดการขยายและหดตัวของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดกระชุ่มกระชวยขึ้น      ประโยชน์   ความชื้นของการอบไอน้ำอยู่ในระดับที่สามารถทนได้และไม่ทำให้เกิดการเสียน้ำของร่างกาย สำหรับซาวน่านั้นเหมาะกับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดในขั้นแรก   เมื่อไหร่และทำไมถึงควรงด   ไม่มีกฏตายตัวว่าเมื่อไรถึงควรงดแต่อาจมีข้อห้ามบางอย่างสำหรับคนที่มีเนื้องอก ความดันโลหิตต่ำ โรคติดต่อบางโรค และโรคระบบไหลเวียนของเลือดที่ปรากฏอาการเส้นเลือดขอดแบบแผ่กระจาย ส่วนคนที่เป็นโรคกลัวที่แคบไม่แนะนำให้ใช้บริการซาวน่าและอบไอน้ำ นี่เป็นเหตุผลที่การดูแลสุขภาพทั้งสองแบบนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์   ระยะเวลาและความถี่ที่แนะนำ   สำหรับการอบไอน้ำ 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวัน ส่วนซาวน่านั้นมากที่สุดก็ครั้งละ 1 ชั่วโมงหนึ่งครั้ง ต่อเดือน ควรเริ่มจากเวลาสั้น ๆ แล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นไปเรื่อย ๆ คราวละเล็กน้อย ควรใช้เครื่องสำอางประเภทไหนควบคุ่ไปด้วย?   สำหรับการอบไอน้ำให้ใช้โคลนพอกตัวและมาสก์ สำหรับซาวน่าให้ใช้ออยล์ให้ความชุ่มชื้นกับผม และสำหรับทั้งสองอย่าง […]

3 TRIPS ขาเรียว ทำที่บ้านง่ายๆ ไม่ง้ออุปกรณ์

3 TRIPS ขาเรียว ทำที่บ้านง่ายๆ ไม่ง้ออุปกรณ์   1. ถนอมขาด้วยท่านั่ง           ไม่นั่งไขว่ห้าง คนที่นั่งไขว่ห้างเป็นประจำมักจะมีเส้นเลือดขอด เพราะการนั่งแบบนี้ทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนไม่สะดวก ยิ่งถ้านั่งตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น กระดูกขาอาจจะโก่ง ต่อให้ขาเรียวแค่ไหนก็หมดสวยอยู่ดี         อย่ายืนขาข้างเดียว น้ำหนักตัวคนเราไม่ใช่แค่สองสามกิโลเป็นภาระหนักมากสำหรับขา ที่จะต้องยืนแบกมันไว้ สิ่งที่ตามมาก็คือเส้นเลือดขอด ขาบวม และเส้นประสาทปลายเท้าที่อาจจะอักเสบ ถ้ายังไงควรจะรักขาอย่างยุติธรรม แบ่งงานให้เท่าทั้งสองข้าง เพื่อถนอมความสวยไว้ให้เรียวน่องของคุณไง        ยืดเส้นที่ขาทุกวัน เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อและสลายไขมันที่เกาะใต้ผิวหนัง จะได้ป้องกันเซลลูไลท์และอาการขาหมูไปในตัว               Tip : วิธียืดเส้นแบบง่ายๆ ให้นั่งกับพื้น ยืดหลังตรง กางขาทั้งสองข้างออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก้มตัวลง เหยียดแขนขวาไปแตะปลายเท้าขวา ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วยืดตัวขึ้น จากนั้นหันไปแตะปลายเท้าซ้ายอีก10 วินาที ทำสลับไปมาหลายๆ ครั้ง    2. นวดต่อมน้ำเหลือง           ถ้าขาสวยอยู่แล้ว การนวดต่อมน้ำเหลืองจะช่วยป้องกันไม่ให้ขามีอาการบวมน้ำจนอวบเป็นหัวไชเท้า ขั้นตอนการนวดไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่นอนแช่น้ำอุ่นแล้วนวดเบาๆ ไล่จากข้อเท้าขึ้นมาหาต้นขา […]

ทำความรู้จัก Yoga wheel ( วงล้อโยคะ )

ทำความรู้จัก Yoga wheel ( วงล้อโยคะ )   Yoga Wheel คืออะไร?     Yoga Wheel ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยในการฝึกโยคะ ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกายแบบโดยรวม โดยเริ่มตั้งแต่การควบคุมลมหายใจ ฝึกสมาธิ การสร้างสมดุลย์ให้กับร่างกายทั้งภายนอกและภายใน ฝึกการทรงตัว การสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทุกๆส่วน และเพิ่มความสามารถในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อได้ดีมากขึ้น   Yoga Wheel ยังสามารถเพิ่มความท้าทายในการฝึกโยคะอาสนะ สำหรับผู้ฝึกทั่วไป     ประโยชน์ทางร่างกาย:   1.ช่วยให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่นและกล้ามเนื้อหลังแข็งแรง 2.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับแกนลำตัว 3.เพิ่มความสามารถในการเปิดร่างกาย เช่น หัวไหล่ สะบัก อก และสะโพก 4.ช่วยลดไขมันหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน กล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน 5.เสริมความแข็งแรงให้ข้อมือ ข้อเท้า   ประโยชน์ทางจิตใจ:   1.มุ่งเน้นการผ่อนคลายทั้งร่างกาย ลมหายใจ และจิตใจ 2.ผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ 3.ฟื้นฟูและสร้างสมดุลการทรงตัว […]

ใช้เวลาพัก (ระหว่างเซ็ต) ให้เป็นประโยชน์ด้วย 3 วิธี

ใช้เวลาพัก (ระหว่างเซ็ต) ให้เป็นประโยชน์ด้วย 3 วิธี   หลังจากใช้เวลาอย่างหนักหน่วงในการออกกำลังกาย การพักระหว่างเซ็ตจึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งคุณอาจจะนั่งพักนิ่งๆ ดื่มน้ำ หรือเล่นโทรศัพท์ อย่างไรก็ดี คุณอาจจะบริหารร่างกายเบาๆ เพื่อให้กล้ามใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และลดไขมันให้มากขึ้นได้ด้วย   1) บริหารกล้ามเนื้อตรงข้าม          ไม่ว่าคุณจะเล่นกล้ามเนื้อส่วนใด ในช่วงพักระหว่างเซ็ต ควรพยายามยืดเหยียดสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามหรือกล้ามเนื้อที่อยู่ตรงกันข้าม เช่น หากคุณเล่นส่วนหลังซึ่งทั้งหมดเป็นการดึงกล้ามเนื้อ คุณควรยืดในส่วนหน้าอกซึ่งใช้การผลัก ตัวอย่างกล้ามเนื้อที่อยู่ตรงข้ามกันได้แก่ ไหล่และหลังส่วนบน ต้นขาและกล้ามเนื้อหลังต้นขา (Hamstring)        ทั้งนี้ มีการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม โดยให้ บริหารหลังและไหล่เป็นจำนวน 3 เซ็ต มีช่วงพักระหว่างเซ็ต 2 นาที กลุ่มแรกไม่มีการทำอะไรระหว่างพัก ขณะที่อีกกลุ่มให้ยืดเหยียดบริเวณกล้ามหน้าอกเป็นเวลา 40 วินาที ซึ่งพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ทำการยืดเหยียด นอกจากจะไม่มีอาการล้าแล้ว แต่ยังสามารถเล่นได้จำนวนครั้งมากกว่ากลุ่มที่ไม่มีการยืดเหยียดระหว่างพักด้วย   […]

5 วิธีกินชาไข่มุก เเบบไม่อ้วนลงพุง

5 วิธีกินชาไข่มุก เเบบไม่อ้วนลงพุง   รู้สึกเสพติดชาไข่มุกแบบหยุดไม่ได้ยั้งไม่อยู่ แต่ไม่อยากตัวอ้วนกลมเพราะชานมไข่มุก WE FITNESS ก็มีวิธีกินชาไข่มุกไม่อ้วนมาฝาก   1. เลือกดื่มชาไข่มุกหวานน้อย   ร้านชาไข่มุกส่วนมากจะมีให้เลือกระดับความหวานของชา ซึ่งถ้าเราไม่อยากได้ปริมาณน้ำตาลเกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับ ก็เลือกระดับความหวานของชาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ โดยแรก ๆ อาจจะหวาน 50% แล้วค่อย ๆ ลดให้เหลือ 30% ตามลำดับก็ได้ และถ้าหลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมได้ก็จะดีมาก   2. ไซซ์เล็กก็พอ             นอกจากระดับความหวานที่มีให้เลือกแล้ว บางร้านยังมีขนาดแก้วให้เลือกด้วย ตั้งแต่แก้วไซซ์เล็ก ไซซ์กลาง ไปจนไซซ์ใหญ่ ซึ่งไม่บอกก็น่าจะรู้นะคะว่าเราควรเลือกแก้วไซซ์เล็กที่สุด กินให้พอหายอยากก็พอ หุ่นจะได้ไม่เสียเนอะ 3. กินชาไข่มุกแล้วต้องลดอาหารอย่างอื่น   ถ้าวันไหนกินชาไข่มุกแล้ว ก็ควรงดอาหารบางอย่างลง โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล กินข้าวให้น้อยลง เพื่อเซฟตัวเองจากการได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับ    4. กินเเล้วอย่าลืมออกกำลังกายด้วยน้า           […]

ผักผลไม้ 4 ชนิด กินแล้วผิวเเข็งเเรง เจอแดดก็ไม่หวั่น

ผักผลไม้ 4 ชนิด กินแล้วผิวเเข็งเเรง เจอแดดก็ไม่หวั่น   นับวันอากาศบ้านเราแลดูจะร้อนมากขึ้นทุกที จึงเป็นปัญหาของสาว ๆ ที่จะต้องหาทางป้องกันจากการถูกแสงแดดทำร้าย จนทำให้ผิวแห้งกร้านมีริ้วรอยแห่งวัยมาเยือน จนทำให้ดูแก่เกินวัยไปในที่สุดนั่นเอง ซึ่งก็ทำได้ด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ   แต่วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สาว ๆ  สู้กับภัยจากแสงแดดอย่างได้ผลก็คือการกินอาหารต้านแดดอย่างผลไม้ ซึ่งไม่เพียงจะมีรสชาติหวานชื่นใจเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณสาวๆ อีกด้วย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย   1.มะเขือเทศ     หากจะให้เอ่ยถึงผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณแล้ว มะเขือเทศเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายจะต้องนึกถึง เพราะในมะเขือเทศมีสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อผิวช่วยให้ผิวสวยดูมีสุขภาพดีดีขึ้นได้ไม่ว่าวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 อีกทั้งยังมีสารมีไลโคปีน แคโรทีนอยด์และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยปกป้องรังสียูวีจากแสงแดด ช่วยให้ริ้วรอยแห่งวัยลดน้อยลง ผิวพรรณดูสดใสเปล่งปลั่ง   2.แตงโม     ผลไม้คลายร้อนอย่างแตงโมไม่เพียงจะสร้างความสดชื่นให้เราได้เท่านั้น แต่แตงโมยังได้ชื่อว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัสและสารไลโคปีน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้านแล้ว […]

ทำความรู้จัก การยืดกล้ามเนื้อ STATIC STRETCHING

ทำความรู้จัก การยืดกล้ามเนื้อ STATIC STRETCHING การยืดกล้ามเนื้อนั้นแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1.Dynamic Stretch หรือการยืดกล้ามเนื้อแบบเคลื่อนไหว 2.Static Stretch หรือการยืดกล้ามเนื้อแบบหยุดนิ่ง งานวิจัยหลายชิ้นได้ยืนยันแล้วว่าก่อนจะออกกำลังกายนั้น เราควรยืดกล้ามเนื้อแบบเคลื่อนไหวสำหรับก่อนการวิ่ง และแบบหยุดนิ่งสำหรับหลังวิ่ง Static Stretch หรือการยืดกล้ามเนื้อแบบหยุดนิ่ง   การยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้ถือว่าเป็นจุดบอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะมีการศึกษาที่แสดงถึงความแข็งแรงที่ลดลงและการระเบิดแรงที่ลดลงเมื่อทำการยืดกล้ามเนื้อทันทีก่อนการฝึกซ้อม ในทางกลับกัน นักวิ่งที่ใช้การยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้ก่อนการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ จะเกิดการบาดเจ็บมากกว่าตอนที่พวกเขาหยุดการยืดกล้ามเนื้อ   สำหรับนักวิ่งทั่วไป การยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้จะได้ผลดีที่สุดเมื่อทำหลังจากฝึกซ้อมเสร็จแล้ว และใช้เพื่อลดอาการยึดติดหลังการวิ่งที่อาจจะมีผลต่อเนื่องถึงวันวิ่งวันต่อไปได้ เพื่อนๆควรคิดว่าการยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้จะช่วยหย่อนกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงควรยืดในเวลาที่เหมาะสมค่ะ ระดับความชำนาญ: สำหรับนักวิ่งทุกระดับ