วิธีกู้ PASSION ในการออกกำลังกาย ไม่ให้ตก!!

วิธีกู้ PASSION ในการออกกำลังกาย  ไม่ให้ตก!!   • ปรับเปลี่ยนตารางเวลา   บางครั้งคุณอาจจะเคร่งเครียดเกินไปหรือไม่ก็หละหลวมเกินไป เพิ่มหรือลดความถี่ของการออกกำลังกายให้หมาะกับลักษณะการใช้ชีวิต อาจจะต้องปรับตารางเวลาด้วย เช่น เปลี่ยนมาออกกำลังกายตอนเช้าแทนหากรู้สึกว่าการออกกำลังกายตอนเย็นเหนื่อยเกินไปหรือไม่เคยว่างตอนเย็นเลย ลดความถี่งจากที่ต้องทำทุกวัน ให้เลือดสัก 3-4 ครั้ง ลดความกดดันของตัวเองลงบ้าง     • หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์   ลองหาเพื่อนที่รักการออกกำลังกายเพื่อช่วยกระตุ้นกันและกันนะคะ ชวนกันไปออกกำลังกายนะคะ ตั้งเป้าหมายด้วยกันแล้วก็สู้ไปด้วยกัน อาจจะลองแข่งขันอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ กันเพื่อเพิ่มความสนุกแลัความตื่นเต้นนะคะ แต่อย่าแข่งขันจริงจังจนเผลอไปเพิ่มความเครียดกว่าเดิมนะคะ เดี๋ยวจะพานหมดไฟไปอีก   • นึกถึงเหตุผลที่เริ่มออกกำลังกาย   ใช่แล้วค่ะ ลองถามตัวเองอีกครั้งว่าทำไมเราถึงลุกขึ้นมาออกกำลังกาย เราอยากจะแข็งแรง มีชีวิตอยู่ยืนยาวและยังแข็งแรง หรืออยากลดน้ำ สร้างกล้าม เสริมหุ่นให้ฟิต ลองคิดถึงเหตุผลเหล่านั้นแล้วคุณจะรู้สึกฮึดสู้นะคะ   เพื่อสุขภาพที่ดีของท่านสมาชิกอย่างยั่งยืน  ออกกำลังกายให้ครบทุกประเภท ทั้ง การออกกำลังกายเพื่อหัวใจที่แข็งแรง ​(Cardio) กล้ามเนื้อแข็งแรง (Strength) และ มีความยืดหยุ่นของร่างกาย […]

ออกกำลังกายแล้วปวดเมื่อย บรรเทาอย่างไร

 ออกกำลังกายแล้วปวดเมื่อย บรรเทาอย่างไร   เชื่อว่าคนที่ออกกำลังกาย และเล่นกีฬา ทุกคนต้องเคยเจอ หรือ เคยชินกับอาการปวด-เมื่อย จากการออกกำลังกายแทบทั้งสิ้น จนมีคำคมคุ้นหูที่ว่า no pain no gain “ไม่เจ็บปวด ไม่พัฒนา” อาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆ ทั้งระหว่าง และ หลังการออกกำลังกายนั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติตามกลไกที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย อันสืบเนื่องมาจากการใช้งานกล้ามเนื้อนั้นเอง อาการปวดจากการออกกำลังกายเกิดจากอะไร   อาการปวดโดยทั่วไป จะถูกควบคุมโดยระบบประสาท และเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งเร้าจากภายนอก กระตุ้นไปยังเซลล์ประสาทรับความรู้สึกให้ส่งสัญญาณไปยังสมอง โดยผ่านทางไขสันหลัง ที่เป็นตัวรับความรู้สึก ตอบสนองต่อความร้อน ความเย็น แสง สัมผัส การกด และความเจ็บปวด อาการปวดสามารถทำให้เกิดอาการทางกายภาพอื่นๆ ได้ เช่น อาการคลื่นไส้ วิงเวียน และกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้   อาการปวดเมื่อย ตึง ล้า หลังการออกกำลังกาย   อาการปวดตึงกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย จะเกิดขึ้นในระหว่างที่ร่างกายซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่สึกหรอจากการออกกำลังกาย หรือ อาการ Delayed Onset Muscle Soreness […]

ฟิตก่อนโดนสาดน้ำ 3 ท่า สร้างกล้ามขาสุดเซกซี่ กับเทรนเนอร์ OME

ฟิตก่อนโดนสาดน้ำ 3 ท่า สร้างกล้ามขาสุดเซกซี่ กับเทรนเนอร์ OME   • มารู้จักกันหน่อย สวัสดีค่ะ เทรนเนอร์ออมค่ะ จาก วีฟิตเนส สาขาเมเจอณปิ่นเกล้าค่ะ • กล้ามขาสุดเซกซี่ จัดท่ามาให้หน่อยขอ 3 ท่า   1. Bulgralian split squat ท่านี้จะช่วยกระชับก้นและต้นขาได้เป็นอย่างดีแถมยังช่วยฝึกในเรื่องของ balance อีกด้วย ฝึกข้างละ 10-12ครั้ง 3 เซต   2. Step up high knee ท่านี้จะใช้การเคลื่อนไหวคล้ายๆกับการก้าวขึ้นบันได ช่วยสร้างความแข็งแรงและกระชับในส่วนของ lower body ฝึกข้างละ 15ครั้ง 4 เซต   3. Good morning ท่านี้คือท่าสวัสดีแบบ hamstring ตึงนั่นเองค่ะ ท่านี้จะใช้กล้ามเนื้อก้น (glutes) และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง […]

ใช้ชีวิตเเบบไขข้อดี ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลโรคข้อเข่าเสื่อม

ใช้ชีวิตเเบบไขข้อดี ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลโรคข้อเข่าเสื่อม   ชีวิตทุกคนปฏิเสธไม่ได้ ก็คืออายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อถึงวัย ความเสื่อมถอยของระบบต่างๆ ของร่างกายก็เริ่มเกิดขึ้น มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการดูแลรักษาร่างกาย ซึ่งอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่มักเกิดขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น และเป็นอาการที่สร้างปัญหาในการใช้ชีวิตก็คือ โรคข้อเข่าเสื่อม   โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร   โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of knee) คือโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อมของข้อเข่า ซึ่งตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ บริเวณกระดูกอ่อนผิวข้อ (Articular cartilage) ในข้อชนิดที่มีเยื่อบุ (Diarthrodial joint) รวมถึง กระดูกบริเวณใกล้เคียง เช่น ขอบกระดูกในข้อ (Subchondral bone) มีการเปลี่ยนแปลงของน้ำไขข้อ ทำให้คุณสมบัติในการหล่อลี่นลดลง   อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม   เมื่อข้อเข่าเสื่อม กระดูกอ่อนของผิวข้อ มีการเปลี่ยนแปลง บางลง ประกอบกับน้ำไขข้อน้อย ทำให้คุณสมบัติในการหล่อลี่นลดลง เมื่อขยับและเคลื่อนไหว เกิดการเสียดสีบริเวณข้อเข่า จึงทำให้มีอาการ ปวดข้อเรื้อรัง ข้อฝืด  ตึง ข้อติด ข้อบวมผิดรูป เดิน และเคลื่อนไหวได้ลำบาก […]

5 วิธีที่ต้องลอง วิ่งบน TREADMILL อย่างไรให้เวิร์ค

5 วิธีที่ต้องลอง วิ่งบน TREADMILL อย่างไรให้เวิร์ค   การวิ่งเป็นการออกกำลังที่ดีมากอย่างหนึ่ง แต่หากใครไม่มีสถานที่อย่างสวนสาธารณะหรือรอบๆหมู่บ้าน การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าก็ใช้ได้เหมือนกัน สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยวิ่งแบบนี้เรามีวิธีมาบอก รับรองคุณทำได้ง่ายๆแน่นอน   1.วิ่งให้อยู่ตรงกลางสายพาน   การวิ่งตรงกลางสายพานเพื่อป้องกันไม่ให้วิ่งใกล้กับตำแหน่งด้านหน้ามากเกินไป ซึ่งหากหน้าอกของคุณไปสัมผัสกับส่วนที่เป็นแป้นก็หมายความว่าเข้าใกล้มากเกินไปแล้ว   2.เดินและวิ่งเหยาะในตอนแรก   ในการวิ่งเริ่มแรกควรสลับไปมาระหว่างการเดินและวิ่งเหยาะๆบนลู่วิ่งจนกว่าคุณจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายได้มากพอ และเมื่อเวลาผ่านไปคุณอาจพบว่าไม่จำเป็นต้องเดินในระยะแรกอีกเลย ทั้งยังช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ดีอีกด้วย   3.Tracking Data การวิ่ง   หากวิ่งเฉยๆก็อาจไม่เห็นพัฒนาการของตัวเอง ลองวัดความก้าวหน้าในการวิ่งด้วย Garmin ก็ใช้งานได้ดีสำหรับนักวิ่งเช่นกัน แต่ถ้าคุณไม่อยากใช้แอฟอะไรเลยใช้จดบันทึกลงสมุดก็ได้นะ   4.อย่าวิ่งด้วยความเร็วที่มากเกินไป   พยายามรักษาความเร็วให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของคุณเอง การวิ่งบนลู่ด้วยความเร็วสูงอาจทำให้สูญเสียการควบคุมและส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นไม่ควรวิ่งด้วยความเร็วมากเกินไปอย่างเด็ดขาด ควรวิ่งด้วยความเร็วที่พอเหมาะจะดีกว่า   5.เชือกรองเท้าก็สำคัญ   เชือกรองเท้าสำคัญนะเพราะขนาดที่วิ่งอยู่หากหลุดจะทำให้เสียจังหว่ะได้ ทางที่ดีควรผูกให้แน่นหรือไม่ก็ใช้เชือกรองเท้าแบบไม่ต้องผูกแทนเนื่องจากมีอุปกรณ์ล็อกป้องกันเชือกหลุดขณะวิ่ง ที่สำคัญควรเลือกรองเท้าให้พอดีและเหมาะสมกับลักษณะของเท้าด้วย  

6 วิธีลดเซลลูไลท์ ลาก่อนไขมันต้นขา!

6 วิธีลดเซลลูไลท์ ลาก่อนไขมันต้นขา!   • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ    การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแล้ว ยังช่วยทำให้ระบบในร่างกายเกิดความสมดุลอีกด้วย แต่การออกกำลังกายที่ดีควรจะเป็นการเดินเร็ว ๆ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก และการออกกำลังกายใต้น้ำ ครั้งละ 30-40 นาทีขึ้นไป อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายออกไป ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลา ขอให้คุณใช้เวลาพักหรือเวลาที่ต้องทำงานให้เป็นประโยชน์ ด้วยการขึ้นลงบนไดแทนการขึ้นลิฟต์ ทำงานบ้าน เป็นต้น   • ควบคุมอาหาร    คุณควรลดละเลิกทั้งของหวานจัดและมันจัด แป้ง ไอศกรีม นมที่มีมันเนยสูง อาหารเค็มจัด และอาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพ เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายของเรามีไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และให้หันมาควบคุมอาหารในแต่ละวัน กินอาหารที่มีประโยชน์และมีไขมันต่ำ ดื่มน้ำเปล่าสะอาด ๆ ให้ได้วันละ 8 แก้ว […]

3 TRIPS ขาเรียว ทำที่บ้านง่ายๆ ไม่ง้ออุปกรณ์

3 TRIPS ขาเรียว ทำที่บ้านง่ายๆ ไม่ง้ออุปกรณ์   1. ถนอมขาด้วยท่านั่ง           ไม่นั่งไขว่ห้าง คนที่นั่งไขว่ห้างเป็นประจำมักจะมีเส้นเลือดขอด เพราะการนั่งแบบนี้ทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนไม่สะดวก ยิ่งถ้านั่งตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น กระดูกขาอาจจะโก่ง ต่อให้ขาเรียวแค่ไหนก็หมดสวยอยู่ดี         อย่ายืนขาข้างเดียว น้ำหนักตัวคนเราไม่ใช่แค่สองสามกิโลเป็นภาระหนักมากสำหรับขา ที่จะต้องยืนแบกมันไว้ สิ่งที่ตามมาก็คือเส้นเลือดขอด ขาบวม และเส้นประสาทปลายเท้าที่อาจจะอักเสบ ถ้ายังไงควรจะรักขาอย่างยุติธรรม แบ่งงานให้เท่าทั้งสองข้าง เพื่อถนอมความสวยไว้ให้เรียวน่องของคุณไง        ยืดเส้นที่ขาทุกวัน เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อและสลายไขมันที่เกาะใต้ผิวหนัง จะได้ป้องกันเซลลูไลท์และอาการขาหมูไปในตัว               Tip : วิธียืดเส้นแบบง่ายๆ ให้นั่งกับพื้น ยืดหลังตรง กางขาทั้งสองข้างออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก้มตัวลง เหยียดแขนขวาไปแตะปลายเท้าขวา ค้างไว้ 10 วินาทีแล้วยืดตัวขึ้น จากนั้นหันไปแตะปลายเท้าซ้ายอีก10 วินาที ทำสลับไปมาหลายๆ ครั้ง    2. นวดต่อมน้ำเหลือง           ถ้าขาสวยอยู่แล้ว การนวดต่อมน้ำเหลืองจะช่วยป้องกันไม่ให้ขามีอาการบวมน้ำจนอวบเป็นหัวไชเท้า ขั้นตอนการนวดไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่นอนแช่น้ำอุ่นแล้วนวดเบาๆ ไล่จากข้อเท้าขึ้นมาหาต้นขา […]

4 วิธีวอร์มก่อนออกกำลังกาย ให้ได้ประสิทธิภาพและไม่เจ็บตัว

4 วิธีวอร์มก่อนออกกำลังกาย ให้ได้ประสิทธิภาพและไม่เจ็บตัว   การเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งซึ่งใช้ได้กับทุกเรื่องรวมไปถึงการออกกำลังกายด้วย ดังนั้นการวอร์มร่างกาย (อย่างถูกวิธี) จึงเป็นสิ่งสำคัญ      การวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกายนั้น จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการกระตุ้น มีการเคลื่อนไหวและเกิดความร้อนในกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว เตรียมพร้อมที่จะลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในสภาวะพร้อมที่จะออกกำลังกาย      โดยทั่วไป หัวใจของมนุษย์จะมีอัตราการเต้นอยู่ที่ราวๆ 70 ครั้งต่อนาที หากคุณออกกำลังกายทันที จะส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจกระโดดขึ้นไปเป็น 150-160 ครั้งต่อนาที ภายในเวลาชั่วขณะ หัวใจจะทำงานหนักมาก หลอดเลือดขยายไม่ทัน และระบบต่างๆ ในร่างกายก็อาจจะไม่พร้อมรับมือกับการออกกำลังกาย   คาร์ดิโอเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด        การวอร์มร่างกายควรรวมการออกกำลังกายในแบบคาร์ดิโอเอาไว้ด้วย เพื่อทำให้หัวใจมีอัตราการเต้นที่สูงขึ้น โดยทางเลือกของการวอร์มในลักษณะนี้ เช่น การปั่นจักรยาน วิ่งจ๊อกกิ้งบนลู่วิ่งไฟฟ้า กระโดดเชือก หรือจะกระโดดบนแทรมโปลีนก็ได้      ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด ให้จำเอาไว้ว่าควรเริ่มต้นวอร์มร่างกายด้วยความเข้มข้นในระดับต่ำเสียก่อน แล้วจึงค่อยเพิ่มความหนักในการออกกำลังให้มากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มอุณหภูมิของกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น ความพร้อมของระบบประสาท และลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากกล้ามเนื้อที่อาจหดตัวได้ […]

ทำความรู้จัก Yoga wheel ( วงล้อโยคะ )

ทำความรู้จัก Yoga wheel ( วงล้อโยคะ )   Yoga Wheel คืออะไร?     Yoga Wheel ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยในการฝึกโยคะ ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกายแบบโดยรวม โดยเริ่มตั้งแต่การควบคุมลมหายใจ ฝึกสมาธิ การสร้างสมดุลย์ให้กับร่างกายทั้งภายนอกและภายใน ฝึกการทรงตัว การสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทุกๆส่วน และเพิ่มความสามารถในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อได้ดีมากขึ้น   Yoga Wheel ยังสามารถเพิ่มความท้าทายในการฝึกโยคะอาสนะ สำหรับผู้ฝึกทั่วไป     ประโยชน์ทางร่างกาย:   1.ช่วยให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่นและกล้ามเนื้อหลังแข็งแรง 2.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับแกนลำตัว 3.เพิ่มความสามารถในการเปิดร่างกาย เช่น หัวไหล่ สะบัก อก และสะโพก 4.ช่วยลดไขมันหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน กล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน 5.เสริมความแข็งแรงให้ข้อมือ ข้อเท้า   ประโยชน์ทางจิตใจ:   1.มุ่งเน้นการผ่อนคลายทั้งร่างกาย ลมหายใจ และจิตใจ 2.ผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ 3.ฟื้นฟูและสร้างสมดุลการทรงตัว […]

3 เทคนิค สยบปัญหากลิ่นตัวขณะออกกำลังกาย

3 เทคนิค สยบปัญหากลิ่นตัวขณะออกกำลังกาย   คงไม่เวิร์คแน่ๆ ถ้ามาออกกำลังกายฟิตกล้ามกันทั้งที แต่สุดท้ายกลับต้องมาได้กลิ่นตัวกลับบ้านไปเป็นของแถม ก็เป็นเพราะเหงื่อเจ้ากรรม ที่ร่างกายขับออกมาระหว่างออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใต้วงแขน ที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนจมูกคนรอบข้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนุ่มๆ ที่รักการออกกำลังกายจะต้องยอมรับสภาพกลิ่นตัวเหม็นกันไปซะหมด เพราะคุณสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างง่ายดายด้วยตัวคุณเอง   • ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกายทุกครั้งก่อนไปออกกำลังกาย   การออกกำลังกายไม่ว่าจะกลางแจ้งหรือในฟิตเนส ต่างก็เรียกเหงื่อกันได้เป็นถังเช่นเดียวกัน ซึ่งหนุ่มๆ คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า เมื่อเหงื่อทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียบนผิวหนังของเรา ก็จะก่อให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากปล่อยเต่ากลางฟิตเนสเวลายกเวทกันอยู่แล้ว   ดังนั้นก่อนไปออกกำลังกายทุกครั้ง หนุ่มๆ จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกาย ไม่ว่าจะเป็นแบบโรลออนหรือแบบสเปรย์ เพราะเมื่อใต้วงแขนของคุณแห้ง และปลอดเหงื่อ แบคทีเรียซึ่งเป็นตัวการก่อให้เกิดกลิ่นก็จะไม่ทำงาน เพียงเท่านี้คุณก็จะยกเวทฟิตกล้ามกันได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวกลิ่นรักแร้รบกวนเพื่อนข้างๆ กันอีกแล้ว   • เลือกชุดไปออกกำลังกายที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ดูดซับเหงื่อ     เสื้อผ้าที่สวมใส่ไปออกกำลังกาย ก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นตัวแรงได้เหมือนกันนะ ดังนั้นหนุ่มๆ จึงควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่หลวมหน่อย เพื่อให้มีพื้นที่ระบายเหงื่อมากขึ้น เหงื่อจะได้ไม่ติดเสื้อผ้า เพราะหากเสื้อผ้าคุณดูดซับเหงื่อไว้เป็นเวลานาน ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้แบคทีเรียแพร่กระจายจนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ และเพื่อเป็นการป้องกันการอับชื้น จึงควรเลือกเนื้อผ้าที่มีความยืดหยุ่น ใส่สบาย และแห้งเร็ว อาจจะเป็นเสื้อคอกลมหรือเสื้อกล้ามที่ไม่ฟิตจนเกินไป […]