ใช้งานนานแค่ไหน…ถึงได้เวลาเปลี่ยนรองเท้าวิ่ง?

ใช้งานนานแค่ไหน…ถึงได้เวลาเปลี่ยนรองเท้าวิ่ง?

รองเท้าวิ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์หลักและอุปกรณ์สำคัญมากที่สุดไม่ใช่แค่เพียงนักวิ่ง แต่รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างอื่นอีกด้วย

ในกรณีที่ท่านนักวิ่งใช้รองเท้าหลายจุดประสงค์ ใช้วิ่งบ้าง ใช้เดินไปทำงานประจำวันบ้าง หรือจะเอาไปใช้เดินป่าไต่เขา และต้องเจอการปะทะกับพื้นแข็งๆ โอกาสที่จะเปลี่ยนรองเท้าก็จะเร็วมากขึ้น…แบบนี้บอกได้เลยว่า รองเท้าจะสึกเร็วมาก แต่ถ้าถนอมใช้ เอาไว้ใช้วิ่งอย่างเดียวบนพื้นอ่อนอย่าง สนามลู่วิ่งทั่วไป โอกาสเปลี่ยนรองเท้าก็จะยืดนานขึ้น

หลายๆ ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำว่า เราควรเปลี่ยนรองเท้าหลังจากใช้ไป 300-500 ไมล์ (480-800 กิโลเมตร) หรือรองเท้ามีสภาพสึกและมีรอยฉีกขาด   แต่สำหรับใครที่ต้องการความชัวร์มากกว่าการวัดระยะอย่างเดียว เรามาดูวิธีการเปลี่ยนรองเท้าโดยอิงความสัมพันธ์ของระยะทางที่วิ่งในหนึ่งสัปดาห์กัน

ตารางการเปรียบเทียบด้านบนนี้ จะช่วยไกด์นักวิ่งได้ว่า เมื่อไหร่ ที่สมควรเปลี่ยนรองเท้า โดยการเปรียบความสัมพันธ์กันระหว่างระยะทางที่ใช้วิ่งต่อสัปดาห์

สำหรับคนที่มีระยะทำการวิ่งต่อสัปดาห์ น้อยกว่า 10 ไมล์ (น้อยกว่า 16 กิโลเมตร) ส่วนมากจะเป็นนักวิ่งมือใหม่ หรือสายวิ่งชิลๆ แนะนำว่าควรเปลี่ยนรองเท้าหลังจากใช้ไป 8-12 เดือน ช่วงที่เหมาะสมจะอยู่ในเดือนที่ 10

สำหรับนักวิ่งที่มีระยะสะสมในหนึ่งสัปดาห์อยู่ที่ 11-20 ไมค์ หรือ 17-32 กิโลเมตร สายวิ่งเป็นประจำ อาจจะวันละ 5-10 กิโลเมตร 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เราก็ควรเปลี่ยนหลังจากใช้ไปแล้ว 5-8 เดือน และระยะที่แนะนำว่าควรเปลี่ยน จะอยู่ประมาณกลางเดือน 6

สาย Advance ขึ้นมาหน่อย มีวิ่ง long run มีฝึก interval มีวิ่ง fartlek และมีระยะวิ่งต่อสัปดาห์อยู่ที่ 21-30 ไมค์หรือ 33-48 กิโลเมตร ก็ควรเปลี่ยนรองเท้าหลังจากใช้ไปแล้ว 3-5 เดือน  แนะนำเปลี่ยนในช่วงเดือน 4 จะเหมาะสมที่สุด

ท้ายสุดสายโหด สายมืออาชีพ นักวิ่งล่าถ้วย ที่มีการวิ่งฝึกซ้อมกินระยะมากกว่า 49 กิโลเมตรขึ้นไป เราแนะนำให้เปลี่ยนรองเท้าหลังใช้ไป 1-2 เดือน แต่เพื่อความประหยัดก็แนะนำให้เปลี่ยนหลังจากใช้ไปสองเดือนนะครับ

ปัจจัยอื่นที่จะช่วยเราตัดสินใจได้ว่าควรจะเปลี่ยนรองเท้าหรือไม่ ได้แก่ สภาพพื้นยางหรือส่วน outer sole มีอาการสึกมากน้อยแค่ไหน ลักษณะการตอบสนองของโฟม (ส่วนบริเวณ mid sole) มีความนิ่มหรือเด้งมากน้อยขนาดไหนเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงแรกๆ  และตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่ควรมองข้าม คือ สภาพพื้นผิวถนนที่เราวิ่ง ยิ่งพื้นหยาบและแข็ง ก็จะยิ่งสึกเร็ว