ยืดกล้ามเนื้อตอนไหนดี ? ก่อน vs หลัง ออกกำลังกาย

ยืดกล้ามเนื้อตอนไหนดี ? ก่อน vs หลัง ออกกำลังกาย

 

การยืดกล้ามเนื้อนั้นแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

1.Dynamic Stretch หรือการยืดกล้ามเนื้อแบบเคลื่อนไหว

2.Static Stretch หรือการยืดกล้ามเนื้อแบบหยุดนิ่ง

 

Dynamic Stretching

 

 

คือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบมีการเคลื่อนไหว โดยที่เคลื่อนไหวช้าๆ และต่อเนื่อง ประโยชน์คือช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อให้ทำงานดีขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมกับการออกกำลังกาย นิยมทำก่อนออกกำลังกาย เพราะจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้ดีกว่าการทำ Static Stretching(การยืดเหยียดแบบอยู่กับที่)

ควรทำก่อนออกกำลังกายโดยอยู่ในช่วงของ Warm up (อบอุ่นร่างกาย) สามารถทำควบคู่ไปกับการอบอุ่นร่างกาย หรือจะทำก่อนหรือหลังจากอบอุ่นร่างกายก็ได้ โดยใช้เวลาในช่วงของการอบอุ่นร่างกายรวมทั้งหมดประมาณ 10-15 นาที (ขึ้นอยู่กับกิจกรรมหรือกีฬา)

 

Static Stretch หรือการยืดกล้ามเนื้อแบบหยุดนิ่ง

 

 

การยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้ถือว่าเป็นจุดบอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะมีการศึกษาที่แสดงถึงความแข็งแรงที่ลดลงและการระเบิดแรงที่ลดลงเมื่อทำการยืดกล้ามเนื้อทันทีก่อนการฝึกซ้อม ในทางกลับกัน นักวิ่งที่ใช้การยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้ก่อนการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ จะเกิดการบาดเจ็บมากกว่าตอนที่พวกเขาหยุดการยืดกล้ามเนื้อ

 

สำหรับนักวิ่งทั่วไป การยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้จะได้ผลดีที่สุดเมื่อทำหลังจากฝึกซ้อมเสร็จแล้ว และใช้เพื่อลดอาการยึดติดหลังการวิ่งที่อาจจะมีผลต่อเนื่องถึงวันวิ่งวันต่อไปได้ เพื่อนๆควรคิดว่าการยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างไว้จะช่วยหย่อนกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงควรยืดในเวลาที่เหมาะสมค่ะ

 

การยืดกล้ามเนื้อดีอย่างไร?

 

1. เพิ่มความยืดหยุ่นและแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ
2. ช่วยให้ออกกำลังกายได้ดียิ่งขึ้น
3. ทรงตัวได้ดีขึ้น
4. ลดการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
5. ความเครียดลดลง

 

ได้อ่านเเล้วก็อย่าลืม ยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกายเเละหลังออกกำลังกายด้วยค่ะ เพื่อประสิทธิภาพในการออกกำลังกายที่ดีขึ้นเเละลดการบาดเจ็บนะคะ