“Refeeding syndrome” อดอาหารนาน เสี่ยงถึงชีวิต!

“Refeeding syndrome” อดอาหารนาน เสี่ยงถึงชีวิต!

สร้างความดีใจให้คนไทยทั้งประเทศเมื่อมีข่าวว่าทีมกู้ภัยพบ 13 ชีวิตทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนแล้ว โดยทุกคนปลอดภัยดี แต่มีอาการอ่อนเพลียและรู้สึกหิวเนื่องจากไม่ได้กินอาหารมานานเกือบ 10 วัน อย่างไรก็ตาม จากที่มีข่าวว่าจะให้โค้ชและเด็ก ๆ ได้กินอาหารเพื่อบรรเทาความหิวและเติมพลังงานให้ร่างกายนั้น ก็ได้มีเสียงเตือนจากแพทย์และนักวิชาการออกมาว่า อย่าเพิ่งรีบนำอาหารหนัก ๆ ไปให้ผู้ประสบเหตุกิน เพราะหากเกิดอาการ “Refeeling Syndrome” ขึ้นมา จะเป็นอันตรายถึงชีวิต เราลองไปทำความเข้าใจอาการ Refeeding syndrome กันดูว่าเป็นอย่างไร

Refeeding syndrome คืออะไร

ภาวะ Refeeding syndrome คือ ภาวะที่ร่างกายขาดสารอาหารมานาน จนร่างกายปรับตัวดึงแร่ธาตุในเซลล์ไปใช้แทนน้ำตาลกลูโคส ดังนั้นถ้าหากคนที่อดอาหารมานานได้กินอาหาร หรือได้รับสารอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเข้าไปทันที ไม่ว่าจะผ่านการกินทางปาก หรือการให้ทางหลอดเลือดดำก็ตาม จะกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนที่ของอิเล็กโทรไลต์เข้าสู่เซลล์อย่างรวดเร็ว
 
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเข้าไปแล้ว ร่างกายจะรีบนำแร่ธาตุที่ได้คืนมาไปชดเชยเซลล์ที่ยืมมาใช้ แต่ก่อนที่แร่ธาตุจะเข้าไปในเซลล์ได้ จะต้องดูดเข้าไปในกระแสเลือดก่อน แต่เมื่อดูดซึมเข้าไปแล้ว สารอาหารสำคัญในกระแสเลือด อย่างเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินบี 1 ก็จะเข้าไปในเซลล์ทั้งหมดด้วยอย่างรวดเร็ว ทำให้เกลือแร่ในเลือดลดต่ำลง อาจมีภาวะสมดุลน้ำและโซเดียมผิดปกติ ซึ่งภาวะเช่นนี้จะส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทั้งระบบสมอง ประสาท กล้ามเนื้อ และทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้เลย อย่างไรก็ตาม ในบางคนอาจไม่เป็นอะไรหรือไม่มีอาการตามที่กล่าวมา เพราะตามกลไกปกติ ร่างกายจะมีการรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายเองได้ในระดับหนึ่ง

Refeeding syndrome ป้องกันได้อย่างไร

เพื่อเป็นการป้องกันภาวะ Refeeding syndrome แพทย์จะต้องตรวจร่างกายผู้ที่ขาดอาหารมานานเพื่อประเมินสภาพร่างกายเสียก่อน จากนั้นจึงเริ่มให้อาหารตามลำดับขั้นตอนคือ

– เจาะเลือดตรวจระดับอิเล็กโทรไลต์ ระดับฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียมในเลือด

– ให้กินวิตามินบี 1 (ไทอามีน) 200-300 มิลลิกรัมต่อวันทางปาก หรือกินวิตามินบีรวม 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หรือให้วิตามินบีรวมทางหลอดเลือดดำ ร่วมกับวิตามินรวม/แร่ธาตุรวม วันละ 1 ครั้ง

– เริ่มให้สารอาหารทีละน้อย ไม่เกิน 10 กิโลแคลอรี/กิโลกรัม/วัน แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มปริมาณพลังงานและสารอาหารอย่างช้า ๆ จนถึงระดับเป้าหมายภายใน 4–7 วัน แต่หากคนไข้มีภาวะทุพโภชนาการ ให้เริ่มต้นให้สารอาหารไม่เกิน 5 กิโลแคลอรี/กิโลกรัม/วัน

– ระหว่างนี้แพทย์ต้องตรวจและประเมินสภาพร่างกายอย่างใกล้ชิด โดยให้สารน้ำชดเชยอย่างเพียงพอ ติดตามระดับฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียมอย่างใกล้ชิด ให้อิเล็กโทรไลต์ชดเชยหากมีภาวะอิเล็กโทรไลต์ในเลือดต่ำ

– ติดตามอาการจนครบ 2 สัปดาห์

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

http://bit.ly/2NCR7dp