ปี 2018 ปีแห่งสุขภาพและการออกกำลังกาย
เข้าสู่ครึ่งหลังของปี 2018 ปีแห่งสุขภาพกันแล้วนะคะ WE FITNESS เองก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพและสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ในการออกกำลังกายมานำเสนอให้กับท่านสมาชิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับท่านสมาชิกทุกท่าน วันนี้เรามาพร้อมกับเรื่องราวดีๆ ของเทรนด์การออกกำลังกายและสุขภาพที่กำลังมาแรงในปี 2018 โดยอ้างอิงจากงานผลสำรวจของ American College of Sports Medicine’s annual survey ที่ทำแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายมากกว่า 4,000 คนถึงแนวโน้มของรูปแบบการออกกำลังกายที่กำลังแทรกซึมและเปลี่ยนแปลงไปในปี 2018 ที่นอกจะเปลี่ยนแนวทางของการออกกำลังกายแล้ว ยังเปลี่ยนรูปแบบและไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ให้เข้าถึงการออกกำลังกายมากและง่ายดายขึ้นอีกด้วย
1. HIIT (High Intensity Intermittent training)
HIIT คือการออกกำลังกายแบบเข้มข้นสูง ที่เน้นการใช้ออกแรงและใช้พลังงานเพื่อบีบให้อัตราการเต้นของหัวใจดีดสูงขึ้นภายอันระยะเวลาอันสั้น และพักให้เพื่อลดอัตราลง ก่อนที่จะวนกลับไปออกกำลังกายอย่างหนักสลับพักอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนครบเซต และยังเป็นการออกกำลังกายที่สามารถปรับใช้กับท่าทางในชีวิตและการออกกำลังกายแบบอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ซึ่ง HIIT เป็นการออกกำลังกายที่คาดหวังผลลัพท์ในการช่วยเผาผลาญพลังงาน เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและหัวใจ เพิ่มความกระฉับกระเฉงมากกว่าการรีดเหงื่อ ใช้เวลาน้อยกว่า Cardio แต่กลับให้ผลลัพท์ที่ชัดเจนกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นการออกกำลังกายแบบ HIIT เองก็สร้างความเครียดให้กับร่างกายสูงเช่นเดียวกัน จึงไม่ควรเล่นติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรเว้นช่วงเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว หรือสลับกับการออกกำลังกายในรูปแบบอื่นควบคู่กันไป รวมถึงต้องมีร่างกายและหัวใจที่แข็งแรงพร้อมสำหรับการออกกำลังกายแบบเข้มเข้มสูงอีกด้วย
2. Body weight training
สำหรับคนที่ยังมีข้ออ้างในการออกกำลังกายในปีก่อนๆ มาถึงปีนี้ ถึงเวลาที่คุณจะทิ้งข้ออ้างเดิมๆ ที่คอยบอกตัวเองว่าไม่ว่าง ไม่มีเวลาเข้าฟิตเนส หรือความคิดที่ว่าการออกกำลังกายต้องใช้อุปกรณ์เยอะแยะไปได้แล้ว ถ้าคุณรู้จักกับการออกกำลังกายแบบ Body weight training ที่เปลี่ยนการออกกำลังกายให้เกิดขึ้นได้ในทุกที่ ทุกเวลา โดยมีอุปกรณ์หลักคือร่างกายของคุณเอง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการออกกำลังกาย และพัฒนาสู่การออกกำลังกายในรูปแบบที่หลากหลายยิ่งขึ้น
3. Strength training
คุณรู้หรือไม่ว่า? การออกกำลังกายแบบ Strength Training สัปดาห์ละสองครั้งได้รับการยืนยันแล้วว่าช่วยทำให้สุขภาพหัวใจให้แข็งแรงขึ้น ลดการสูญเสียกล้ามเนื้อตามอายุและปรับความไวในการตอบสนองต่ออินซูลินของร่างกาย (Insulin Sensitivity) ซึ่ง Insulin Sensitivity คือภาวะที่อินซูลินจะนำน้ำตาลกลูโคสจาอาหารที่เราบริโภคเข้าร่างกายไปเผาผลาญเป็นพลังงานให้เซลล์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นและยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้
แต่หนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญสำหรับ Strength Training คือศักยภาพของร่างกายของคุณ การรู้จักร่างกายของตัวเองแล้วปรับเทคนิคให้เหมาะสมตามสมควร แล้วค่อยๆ พัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่า ย่อมดีกว่าการหักโหมออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
4. Yoga
โยคะ อีกหนึ่งการออกกำลังกายยอดฮิตตลอดกาล แม้ว่าเทรนด์การออกกำลังกายจะเปลี่ยนไปเช่นไร แต่โยคะยังคงเป็นหนึ่งศาสตร์การออกกำลังกายที่ไม่เสื่อมถอยไปตามเวลา และยังคงมีการพัฒนาต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะโยคะนั้นมีส่วนช่วยทั้งร่างกายและจิตใจ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยในการประสานงานระหว่างร่างกายระบบประสาทและสมองให้ทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น ช่วยปรับสมดุล ยังรวมไปถึงช่วยในเรื่องของกายเคลื่อนไหว เหมาะสมสำหรับทุกเพศทุกวัย และคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพที่ไม่สามารถออกกำกายหนักได้ อาทิเช่น ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะโรคหัวใจ มีอาการบาดเจ็บที่หลัง รวมไปถึงภาวะซึมเศร้าแลอื่นๆ อีกมากมาย
5. Wearable Technology
Wearable technology หรือ เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงไลฟ์สไตล์ให้ดียิ่งขึ้น และในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้มีการพัฒนาเข้ามาในแวดวงสุขภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีสุขภาพช่วยบันทึกและแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ เทคโนโลยีช่วยนับก้าว ทำให้คุณวางแผนเกี่ยวกับการออกกำลังกายและเฝ้าระวังสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแก็ดเจ็ตที่คนรักสุขภาพนิยมที่จะจับจองเป็นเจ้าของกัน
และนี่คือ เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงในปี 2018 นี้ ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะได้ทดลองหรือได้สัมผัสกันมาบ้างแล้ว และแน่นอนว่า WE FITNESS พร้อมที่จะเติบโตและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาไปพร้อมกับเทรนด์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อร่วมสร้างสังคมคนมีสุขภาพดีด้วยความใส่ใจ และผ่านการบริการที่ดีที่สุดจากเรา ซึ่งวันนี้ WE FITNESS ก็ได้พัฒนาการออกกำลังกายในรูปแบบใหม่มานำเสนอให้แก่ทุกท่าน นั่นก็คือ WE X POWER !
WE X POWER เป็นโปรแกรมการออกกำลังกาย ที่จะท้าทายทุกขีดจำกัดของร่างกาย เพื่อการพัฒนาความแข็งแรงและความกระชับของกล้ามเนื้อ เพิ่มความคล่องแคล่วสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ปรับรูปร่างให้ ดูดี มีสไตล์ ด้วยรูปแบบการออกกำลังกายแบบ “หนักสลับพัก หรือ High Intensity Intermittent training” โดยการเทรนแบบเป็นกลุ่ม (Group training) 6-12 คน กับเทรนเนอร์มืออาชีพ ทำให้เกิดความสนุกสนานในแบบสังคมคนรักสุขภาพ ใช้เวลาเพียง 75 นาทีต่อ 1 session จึงเหมาะกับผู้ที่มีเวลาน้อยแต่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน ด้วยท่าออกกำลังกายที่ทุกคนสามารถทำได้ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมากและเป็นท่าที่ผสมผสานการใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WE X POWER ได้ที่
https://www.wefitnesssociety.com/we-class/we-x-power/