“วัยทำงาน” กับ การออกกำลังกาย ที่เหมาะสมที่สุด
Burn-Out Syndrome
อาการ Burn-Out Syndrome หรือ อาการ “หมดไฟ” มักพบเมื่อสมดุลระหว่างงานและชี วิตส่วนตัว (work-life balance) เสียไป เกิดความเหนื่อยหน่ายทางอารมณ์ ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน อ่อนเพลีย เสียสมาธิ ความสัมพันธ์กับผู้อื่นมีปัญหา รู้สึกว่ามีความสุขน้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่โรคทางจิตใจและร่ างกายอื่นๆ อีกด้วย
การป้องกันภาวะ Burn-out นี้สามารถทำได้ด้วยการเริ่มที่ต นเอง ร่วมกับการสนับสนุนจากหัวหน้าแล ะที่ทำงาน ในปัจจุบันมีองค์กรขนาดใหญ่มากม ายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะนอกจากจะเป็นผลดีกับพนักงา นแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำง านและลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลรั กษาพยาบาลขององค์กรอีกด้วย
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายที่ดี ควรเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิ
เทคนิคง่ายๆ ที่เริ่มได้จากตัวเอง
• ดูแลร่างกายและสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนอน อาหาร การควบคุมน้ำหนัก และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อค้นหาและป้องกันโรคที่อาจเ กิดขึ้น
• จัดระเบียบให้ชีวิต ทั้งด้านการทำงานและชีวิตส่วนตั ว การจัดแบ่งและจัดตารางเวลาช่วยใ ห้ชีวิตยุ่งยากน้อยลง นอกจากจะแบ่งเวลาให้ครอบครัวหรื อเพื่อนแล้ว ต้องจัดเวลาให้ตัวเองอีกด้วย
• การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแ ล้วยังช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง การเปลี่ยนสถานที่ออกกำลังกาย หรือมีกลุ่มเพื่อนที่มีความสนใจ ร่วมกันยังช่วยคลายความเครี ยดจากการทำงานได้อีกด้วย
• กิจกรรมอื่นๆ เช่น การทำงานการกุศล การปฏิบัติธรรม หรืองานอดิเรกต่างๆ ที่ชอบ ช่วยให้เกิดสมดุลระหว่างกายและใ จ
โดยสรุปคือ “กายกับใจ สมองกับร่างกาย งานและชีวิตส่วนตัวต้องมีความสม ดุล” จึงจะช่วยให้ทั้งคนวัยทำงานสามา รถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีร่างกายและจิตใจแข็งแรง ช่วยให้ประสบความสำเร็จทั้งหน้า ที่การงาน ชีวิตส่วนตัว และมีความสุขอย่างยั่งยืน