เทรนด์สุขภาพปี 2018 อาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอะไรที่น่าจะมาแรง คนเฮลธ์ตี้มาส่องกันเลย
แม้เราจะเห็นว่ากระแสรักสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในด้านอาหารเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่การออกกำลังกาย ซึ่งก็จัดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกคนมีความใส่ใจในสุขภาพมากยิ่งขึ้น แต่เทรนด์สุขภาพก็เปลี่ยนแปลงกันอยู่เรื่อย ๆ มาตลอดนะคะ โดยเฉพาะเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ เทรนด์อาหารสุขภาพ 2018 จะมีอะไรบ้าง นักโภชนาการและบรรดาสถาบันเพื่อสุขภาพจะเดาว่าเทรนด์อาหารสุขภาพอะไรจะฮิตในปี 2561 มาดูกันเลย
1. อาหารธัญพืช
นักโภชนาการคาดเดากันว่าเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพปี 2018 มีแนวโน้มว่าสายธัญพืชน่าจะมาแรง ทั้งเมล็ดแฟลกซ์ ควินัว ถั่วชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงน้ำมันที่สกัดมาจากเมล็ดอะโวคาโดด้วย ซึ่งจุดนี้เขาวิเคราะห์กันว่า ธัญพืชเป็นอาหารที่รับประทานง่าย ค่อนข้างสะดวกในการปรุงอาหารหรือจะกินเล่นก็ได้ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ที่เน้นความสะดวกรวดเร็วเป็นอันดับแรก ๆ นอกจากนี้ในปี 2018 ยังอาจมีทางเลือกกินขนมขบเคี้ยวจากธัญพืชอย่างมีประโยชน์มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น มันม่วงอบกรอบ แครอทอบกรอบ หรือมันหวานอบกรอบ
2.สมุนไพรเพื่อสุขภาพ
สมุนไพรยังคงเป็นเทรนด์สุขภาพที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่ในไทยเท่านั้นนะคะที่เริ่มจะเอนเอียงไปใช้สมุนไพรเพื่อสุขภาพรักษาและบรรเทาอาการป่วยกัน แต่ในต่างประเทศเองก็ฮิตใช้สมุนไพรอย่างขิง ขมิ้น อบเชย และสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในการปรุงรสจัดให้อาหารและเครื่องดื่มมากขึ้นเช่นกัน
3.นมอัลมอนด์
มีหลายคนที่ไม่สามารถดื่มนมได้ เนื่องจากร่างกายขาดเอนไซม์บางชนิดที่ใช้ย่อยโปรตีนในนม ดังนั้นนอกจากนมวัวพาสเจอร์ไรซ์แล้ว ก็ยังมีนมถั่วเหลือง นมปราศจากแลคโตสมาเป็นทางเลือกให้คนดื่มนมไม่ได้ ทว่าล่าสุดมีนมอัลมอนด์ที่เพิ่งเริ่มจะฮิตกันมาสักระยะ และคาดว่าน่าจะเป็นเทรนด์ดื่มนมทางเลือกใหม่ที่คงจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2018 นอกจากนี้ นมจากถั่วชนิดอื่นอย่างนมวอลนัท นมพิสตาชิโอ ก็กำลังเริ่มมาแล้วเหมือนกัน
4.ขนมปังโฮลวีท
ทุกวันนี้เราพอรู้กันว่าแป้งไม่ขัดสีก็จะมีพวกโฮลวีท ข้าวกล้อง ธัญพืชต่าง ๆ แต่นอกจากขนมปังโฮลวีตแล้ว ในปี 2018 อาจได้เห็นอาหารประเภทแป้งไม่ขัดสีหลากหลายชนิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ขนมปังมันเทศ 100% หรือขนมปังที่มีส่วนผสมของผักและผลไม้เป็นหลัก ใช้แป้งขัดขาวน้อยที่สุด
5.เครื่องดื่มปราศจากน้ำตาล
เราอาจเคยเห็นอาหารปราศจากกลูเตนที่ผลิตมาเพื่อคนที่มีปัญหาในการย่อยกลูเตน และก็เห็นเครื่องดื่มและอาหารที่แปะบนฉลากว่าปราศจากน้ำตาล หรือ Lactose and fructose free มาสักพัก ทว่าในอนาคตคนรักสุขภาพจะเลือกรับน้ำตาลธรรมชาติจากผัก ผลไม้ และแป้งไม่ขัดสีมากกว่าอาหารปราศจากน้ำตาล เพราะจริง ๆ แล้วอาหารที่บอกว่าปราศจากน้ำตาลมีสารที่ให้ความหวานมากกว่าสูตรธรรมดา อีกทั้งในอาหารบางชนิดยังมีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างมากอีกต่างหาก คนรักสุขภาพ 2018 จึงมีแนวโน้มจะโบกมือลาอาหารและเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาลมากขึ้น