4 วิธีลดน้ำตาลในเลือด…ไม่เสี่ยงเบาหวาน

4 วิธีลดน้ำตาลในเลือด… ไม่เสี่ยงเบาหวาน

ในปัจจุบันนี้เป็นที่น่าตกใจมากเลยทีเดียวที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีจำนวนมากขึ้นและยังอายุไม่มาก ซึ่งหากเราไม่อยากเข้าใกล้โรคเบาหวานก็ควรจะลดการกินอาหารที่มีรสหวานจัดน้ำตาล เพราะระดับน้ำตาลในเลือดนั้นคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เราเป็นโรคนี้ รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานแล้วก็ควร ลดน้ำตาลในเลือด ให้ได้ เพ่อทำให้สุขภาพของเรากลับมาดีเหมือนเดิมค่ะ

และวันนี้เรามีวิธี ลดน้ำตาลในเลือด มาฝากกันค่ะ ทั้ง 4 วิธีนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบไม่ต้องพึ่งยาใดๆ ว่าแล้วก็ไปดูวิธีลดน้ำตาลในเลือดกันเลยดีกว่าค่ะ

1. ควบคุมอาหาร

แน่นอนว่าการที่เรามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงนั้นมาจากอาหารเป็นหลัก ทางแก้ที่มีที่สุดก็คือการควบคุมอาหารค่ะ ลองปรับวิธีการกินอาหารให้เป็นเวลามากขึ้น เลือกกินอาหารว่างที่มีประโยชน์แทนการกินขนม และเน้นทานอาหารให้อิ่มแต่ครบ 5 หมู่เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่เรียกร้องให้หาของจุกจิกกินอีกค่ะ

2. ดื่มน้ำเปล่า

น้ำหวานต่างๆ คือตัวการสำคัญที่ทำให้เรามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หากเป็นไปได้ก็ควรลดน้ำหวานเหล่านี้ลงมารวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงมาด้วยค่ะ เนื่องจากในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีน้ำตาลแฝงอยู่เช่นกัน (สาวนักดื่มควรรู้! แอลกอฮอล์แต่ละชนิดมีน้ำตาลมากขนาดไหน มาดู!)

3. เลือกความหวานจากธรรมชาติ

ลองเปลี่ยนจากอาหารที่มีความหวานจากน้ำตาลมาเป็นอาหารที่มีความหวานจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ที่มีความหวาน หรือเปลี่ยนมากินน้ำตาลจากหญ้าหวาน และเพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ห่างจากน้ำตาลจึงควรลดอาหารจำพวกแป้ง และขนมหวานที่มีส่วนผสมของน้ำตาลด้วยค่ะ อาศัยความตั้งใจหน่อยแต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ ร่างกายก็จะเริ่มชินและทำให้สามารถ ลดน้ำตาลในเลือด ได้ในที่สุดค่ะ

4. ออกกำลังกาย

• คาร์ดิโอหรือแอโรบิก

เป็นการออกกําลังกายที่ต้องใช้ออกซิเจน จึงมีความสัมพันธ์กับการทํางานของหัวใจ เช่น การเดินเร็ว เต้นแอโรบิก ปั่นจักรยาน และว่ายน้ํา แนะนําให้ออกกําลังกายประเภทนี้อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน หากไม่เคยเล่นมาก่อน ให้เริ่มจากวันละ 15 นาที แล้วค่อยเพิ่มเวลาในวันต่อๆ มา

• การออกกําลังกายแบบใช้แรงต้าน(Resistant Exercise)

เช่น ยกน้ําหนัก นอกจากนี้ยังรวมถึงประเภทที่ต้องฝึกหายใจและใช้สมาธิ เช่น โยคะ พิลาทีส และไทชิ การยกน้ําหนักช่วยให้กล้ามเนื้อดึงน้ําตาลและไขมันมาใช้เป็น พลังงานขณะยกลูกน้ําหนัก การฝึกโยคะและพิลาทีสก็ต้องใช้พลังงานในการฝึกท่าต่างๆ และควรเสริมท่าโยคะที่ช่วยบริหารไตและตับอ่อน รวมถึงท่าที่กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน