3 ประเภทของคาร์ดิโอ ทำอย่างไรให้ผอมเร็ว โดยไม่เสียกล้ามเนื้อ
แต่กับบางคนที่ไม่ถนัดในการเล่นเวทเทรนนิ่งอาจจะด้วยเพราะสาเหตุที่ต่างกันออกไป เราก็สามารถใช้การทำคาร์ดิโอเพื่อ ลดน้ำหนัก ได้เหมือนกันค่ะ แต่เราจะทำคาร์ดิโออย่างไรให้ผอมได้เหมือนกับการเล่นเวทเทรนนิ่ง วันนี้เรามีเทคนิคมากฝากกันค่ะ
1. ทำคาร์ดิโอแบบ LISS
เมื่อไหร่ก็ตามที่่เรามีอาการบาดเจ็บร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บมาจากการเล่นกีฬาหรือเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อมาจากเวทเทรนนิ่ง การออกกำลังแบบคาร์ดิโอก็สามารถนำมาทดแทนตรงนี้ได้ค่ะ โดยเราสามารถใช้การทำคาร์ดิโอแบบ LISS หรือ low intensity steady state
ซึ่งเป็นการทำคาร์ดิโอแบบเบาๆ เช่น การเดินรอบหมู่บ้าน เดินชัน ปั่นจักรยาน ซึ่งการทำแบบนี้นอกจากจะเหมาะกับคนที่มีอาการบาดเจ็บแล้ว ยังเหมาะกับคนที่ไม่ชอบการออกกำลังกายหนักๆ หรือมีน้ำหนักตัวเยอะได้ด้วยค่ะ ซึ่งการทำคาร์ดิโอประเภทนี้ควรทำให้ได้ 200 – 300 นาที/อาทิตย์ หรือประมาณ 1 ชั่วโมง/5 วัน/อาทิตย์ค่ะ
2. ทำคาร์ดิโอแบบ MISS
ถือเป็นการทำคาร์ดิโอที่หนักกว่าแบบแรกแต่ก็ยังไม่หนักที่สุดค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ขี้เบื่อไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ เป็นเวลานานๆ เพราะการทำคาร์โอแบบ MISS นั้นใช้ระยะเวลาน้อยกว่าแบบ LISS ได้เกือบเท่าตัวเลยล่ะค่ะ โดยการทำคาร์ดิโอประเภทนี้ควรทำให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 30 นาที/5 วัน/อาทิตย์ หรือ 50 นาที/3 วัน/อาทิตย์ค่ะ
3. ทำคาร์ดิโอแบบ HIIT
การทำคาร์ดิโอแบบ HIIT นั้นเหมาะสำหรับคนที่ผ่านการออกกำลังกายมาระยะหนึ่งแล้วค่ะ เพราะการทำคาร์ดิโอประเภทนี้ต้องใช้แรงในการทำอย่างมาก การทำ HIIT ที่ถูกต้องนั้นหลังจากทำเสร็จแล้วผู้ที่ทำจะรู้สึกเหนื่อยมากและทำให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันไปค่อนข้างมากค่ะ แต่ระยะเวลาในการทำนั้นสั้นกว่าการทำคาร์ดิโอแบบ LISS เยอะ สำหรับคนที่สนใจการทำคาร์ดิโอแบบ HIIT นั้น ควรทำให้ได้ 50 – 70 นาที/อาทิตย์ และที่สำคัญคือไม่ควรทำทุกวันเนื่องจากจะกระทบกับกล้ามเนื้อค่ะ
เห็นได้ว่าจริงๆ แล้วการทำคาร์ดิโอนั้นก็สามารถช่วย ลดน้ำหนัก ได้เหมือนกัน สาวๆ คนไหนที่เบื่อการเดินทางไปยิมเพื่อเวทเทรนนิ่งแล้ว อาจลองหากิจกรรมอื่นๆ เช่น การตีแบด ว่ายน้ำ วิ่ง เดินเร็วหรือปั่นจักรยานก็ได้ เพราะกิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นการทำคาร์ดิโออย่างหนึ่งและสามารถลดไขมันในร่างกายได้เช่นเดียวกันค่ะ