3 เคล็ดลับ พิชิตสุขภาพดีปี 2020

 3 เคล็ดลับ พิชิตสุขภาพดีปี 2020

 

เผยเทรนด์พิชิตสุขภาพดีปี 2020 เจาะลึกเคล็ดลับการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นใหม่ ชู 3 เคล็ดลับ ฟู้ดดีกับอาหารสไตล์แพลนต์เบส (Plant-Based Diet) ที่เน้นพืชเป็นหลัก ฟิตดีกับการออกกำลังกายแบบฟังก์ชันนัล เทรนนิ่ง (Functional Training) ที่สามารถทำได้ที่บ้าน และการบริหาร อารมณ์ดีเพื่ออายุยืนยาว พร้อมวิธีคลายเครียดที่ทำได้ง่ายๆ ดังนี้

 

• แพลนต์เบส (Plant-Based Diet) เทรนด์มาแรงดีต่อใจและดีต่อโลก

 

การเลือกรับประทานอาหารสไตล์แพลนต์เบส (Plant-Based Diet) คือ หลักการกินที่เน้นอาหารที่มาจากพืช ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือโปรตีนที่มาจากพืช พยายามกินอาหารจากเนื้อสัตว์ให้น้อยลง หรือกินปลาแทนเนื้อแดง เคล็ดลับการกินแบบแพลนต์เบสนั้น ในหนึ่งจานต้องมีโปรตีนจากพืช ไข่ขาว หรือโปรตีนจากเนื้อปลา ธัญพืชไม่ขัดสี ผัก และผลไม้ ใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกคาโนลาในการปรุงอาหาร และควรดื่มน้ำเปล่า ถ้าปรับเมนูให้เป็นแบบไทยๆ คือการกินข้าวกล้อง ปลาทูนึ่ง ปลาเผา ไข่ขาวหรือไข่ต้ม เต้าหู้ น้ำพริก ผักสด หรือส้มตำ ก็จะได้มื้ออาหารที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังดีต่อโลกของเราในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

 

• Functional Training ออกกำลังกายง่ายๆ แต่ได้ครบทุกส่วน

 

 

การออกกำลังกายแบบฟังก์ชันนัล เทรนนิ่ง เป็นการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อทุกมัด ซึ่งการทำแต่ละท่าจะได้กล้ามเนื้อหลายส่วน เช่น สะโพก ขา แขน ไหล่ ลำตัว ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบฟังก์ชันนัล เช่น การสควอท การออกกำลังกายหลักๆ คือ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ที่ต้องทำรวมกันให้ได้อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ แล้วยังสามารถออกกำลังกายแบบฟังก์ชันนัล เทรนนิ่ง ควบคู่กันไปด้วย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ โดยต้องทำให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง

 

• อารมณ์มั่นคง แจ่มใส สร้างสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

 

 

เคล็ดลับการมีอารมณ์ที่แจ่มใสและอารมณ์ดีแบบยั่งยืน คือการที่เรามีความสุขกับปัจจุบันได้ โดยไม่กังวลถึงอดีตและอนาคตมากเกินไป และต้องปรับความคาดหวังให้ตรงกับความเป็นจริง เพราะถ้าคาดหวังหรือยึดติดมากไปจะทำให้มีความเครียด ซึ่งการออกกำลังกาย และการนั่งสมาธิ ถือเป็นอีกปัจจัยที่ลดภาวะความเครียดได้ดี การมีอารมณ์ขันก็เป็นคุณสมบัติหนึ่งของคนที่มีอายุยืนยาว โดยเฉพาะคนที่สามารถมองด้านบวก หรือด้านชวนขำของปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้ จะช่วยให้ดึงตัวเองออกมาจากปัญหา และมองปัญหารวมถึงหาวิธีแก้ไขได้ดีขึ้น เมื่อเรามีสุขภาพใจที่ดี ทำให้เรามีพลังบวกในการดำเนินชีวิตต่อไป

 

แพทย์หญิงธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล แพทย์วุฒิบัตรเวชศาสตร์ชะลอวัย (สหรัฐอเมริกา) เผยเทรนด์การดูแลสุขภาพ แนะนำเพิ่มเติมว่า “ด้านอารมณ์ ความเครียดก็เป็นตัวแปรสำคัญ สำหรับคนวัยทำงานที่หลายคนอาจมีภาวะเครียด หมดไฟทำงาน หรือมีภาวะซึมเศร้า ควรเริ่มจากการจัดสรรเวลาทำงาน ไม่ใช่ทำงานตลอดเวลา กลับบ้านก็ยังทำงาน รวมทั้งวันเสาร์อาทิตย์ ก็ควรแบ่งเวลาสำหรับพักบ้าง และต้องเป็นการพักจริงๆ เช่นใช้เวลาอยู่กับครอบครัว คนที่รัก หรือออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง และต้องให้ความสำคัญกับการนอนด้วย ควรนอนหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดความเครียดได้