‘อะโวคาโด’ อาหาร Super Foods ทานลดน้ำหนักหลังออกกำลังกาย
อะโวคาโด (Avocado) กับการลดน้ำหนัก
แน่นอนว่าอะโวคาโด (Avocado) อุดมไปด้วยไขมัน (ดี) นี่ก็คือเหตุผลที่อะโวคาโดให้พลังงานเเคลอรี่มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น เช่น สตรอวเบอร์รี่ 100 กรัม ให้พลังงานแคลอรี่แค่ 32 แคลอรี่ แต่อะโวคาโดในปริมาณเท่ากัน จะให้พลังงานมากถึง 160 แคลอรี่
อะโวคาโดที่วางขายทั่วไปจะเป็นอโวคาโดขนาดกลาง อะโวคาโดที่สุกแล้วจะมีเปลือกออกสีคล้ำๆ (ดำ) โดยทั่วไป 1 หน่วยบริโภคของอะโวคาโด คือ 1/5 ของลูกอโวคาโดขนาดกลางครับ ซึ่งจะให้พลังงานประมาณ 50 แคลอรี่ และไขมันประมาณ 4.5 กรัม อะโวคาโด ขนาดกลาง 1 ลูก จะให้พลังงานทั้งหมด 250 แคลอรี่
ไขมันจากอะโวคาโดดีอย่างไร?
เหตุผลที่อะโวคาโดเป็นหนึ่งใน “Super Foods” ก็เพราะว่า มันอัดเม็ดไปด้วย กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fatty Acids) ที่มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลเลวในเลือด และยังช่วยเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลดี (HDL) อีกด้วย
ผู้หญิงควรกินอะโวคาโด วันละกี่ลูก?
อย่างแรกเลย เราต้องรู้ก่อนครับว่า ในหนึ่งวันร่างกายเราต้องการพลังงานกี่แคลอรี่ เพราะถ้างบประมาณแคลอรี่ของเรามีแค่ 1,200 แคลอรี่ เราก็อาจจะกินแค่วันละ ½ ลูกดีกว่า เพราะจะได้รับพลังงานแคลอรี่แค่ 130 แคลอรี่ และไขมัน 12 กรัม เท่านั้น แต่ถ้ากินทั้งลูก (250 แคลอรี่) เราก็อาจจะต้องลดอาหารประเภทอื่นลง
อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ได้แก่
- วิตามินอี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยงามไม่แก่เร็ว ที่สำคัญกินแล้วจะไม่เป็นหมัน ป้องกันหวัด เลือดออกตามไรฟัน
- วิตามินเอ บวกสารเบต้าแคโรทีน บำรุงสายตา
- สารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
- มีโปรตีนสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ
- มีวิตามินบี แก้อาการเหน็บชา
- มีโพแทสเซียมและโฟเลส ช่วยลดความดันโลหิต
- เป็นไขมันดี มีประโยชน์ลดไขมันในเลือด กินแล้วลดน้ำหนักได้ดี