ออกกำลังกาย เล่นทั้งตัว VS เล่นแยกส่วน เเบบไหนดีกว่า?

ออกกำลังกาย เล่นทั้งตัว VS เล่นแยกส่วน เเบบไหนดีกว่า?

 

Full Body Workout คือการออกำลังกายทั้งตัวในวันเดียว เล่น 3 วันต่ออาทติย์ หรือการเล่นทั้งอก, ไหล่, หลัง, ขา, แขน, ท้อง ในวันเดียว และเล่น 3 วันต่ออาทิตย์

Split Workout คือการออกกำลังกายแบบแยกส่วนในแต่ละวัน เช่นการเล่น Push/Pull, Upper/Lower หรือการออกกำลังกายแบบแบ่ง 5 วัน 5 ส่วนเช่น อก ไหล่ หลัง ขา แขน/ท้อง 

แล้วแบบไหนที่ดีกว่ากันระหว่าง Full Body Vs. Split Workout?

เราจะแบ่งออกเป็น 4 ด้านหลักๆที่ส่งผลต่อการพัฒนากล้ามเนื้อ

 

1. การสังเคราะห์โปรตีน

 

ร่างกายจะเพิ่มอัตราการสังเคราะห์โปรตีนทุกครั้งที่เราออกกำลังกายไปจนถึง 36 ชม. หลังเล่น เพื่อที่จะนำโปรตีนไปทดแทนและซ่อมแซมโปรตีนที่ถูกทำลายไปจากการออกกำลังกายที่เข้มข้น หากเราออกกำลังกายแบบแยกส่วน ในแต่ละอาทิตย์กล้ามเนื้อแต่ละส่วนจะถูกกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนเพียงอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
แต่ Full Body Workout ที่เล่นทุกส่วน 3 ครั้งต่ออาทิตย์จะกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในร่างกายได้ถึง 3 ครั้งต่ออาทิตย์ในแต่ละส่วน

 
2. คุณภาพในการเล่นแต่ละส่วนต่ออาทิตย์

 

การเล่นทั้งตัวหรือ Full Body Workout เราจะเล่นกล้ามเนื้อแต่ละส่วนเพียง 1-2 ท่าต่อวันเท่านั้นเนื่องจากเราต้องเล่นทั้งตัว(ทุกส่วน) แต่ Split Workout จะเล่นแค่ส่วนเดียวทั้งรอบออกกำลังกาย ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆที่เราเล่นถูกใช้แรงไปมากแล้วในท่าแรกๆ ฉะนั้นท่าหลังๆของส่วนนั้น กล้ามเนื้อจะไม่สามารถใช้แรงได้อย่างเต็มที่เนื่องจากความล้า ทำให้แต่ละท่าที่คุณเล่นกล้ามเนื้อถูกพัฒนาด้วยอัตราเพิ่มแบบถดถ่อย

แตกต่างจาก Full Body Workout ที่เล่นเพียงส่วนละ 1-2 ท่าจะสามารถใช้แรงกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆได้อย่างเต็มที่ทุกครั้งที่เราเล่น

ฉะนั้นใน 1 อาทิตย์การเล่นแบบแยกส่วนนั้นคุณอาจจะเล่นกล้ามเนื้อแต่ละส่วนไป 4-5 ท่า แต่ท่าที่ 3-5 ไม่ได้พัฒนากล้ามเนื้ออย่างเต็มที่เนื่องจากความล้าจากท่าที่ 1-2 แต่  Full Body Workout ที่เล่น 4-5 ท่าต่อกล้ามเนื้อใน 1 อาทิตย์เหมือนกันจะได้พัฒนากล้ามเนื้อในทุกท่าและทุกเซทที่เล่นอย่างเต็มที่

 

 

3. ความเข้มข้นในการออกกำลังกาย

 

เนื่องจากคุณออกกำลังกายแค่ 3 วันต่ออาทิตย์ใน Full Body Workout ฉะนั้นทุกครั้งที่คุณไปฟิตเนส คุณจะมีแรงสำหรับเล่นมากกว่า สามารถพักแต่ละเซทน้อยกว่าและยกได้หนักกว่าอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ความเข้มข้นในการออกกำลังกายของคุณสูงกว่า

 

4.ความสมดุลในการออกแรงและพัฒนาการของกล้ามเนื้อแต่ละส่วน

 

การเล่นแบบ Full Body Workout เนื่องจากเราเล่นกล้ามเนื้อแต่ละส่วนเท่าๆกัน ทำให้ความสามารถในการใช้แรงดีขึ้นเพราะกล้ามเนื้อทุกส่วนถูกพัฒนาไปพร้อมๆกัน ด้วยความเข้มข้นที่เท่ากัน และยังทำให้พัฒนาการในแต่ละส่วนสมดุลและใกล้เคียงกันอีกด้วย 

 
ถึงแม้ว่าโดยภาพรวมการเล่นแบบ Full Body Workout จะดูให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากับคุณได้ แต่เราก็ต้องดูตามสถานการณ์ด้วยเช่น หากโภชนาการในช่วงนั้นๆคุณไม่ดี/พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอาจจะไม่สามารถรับความเข้มข้นที่สูงในการเล่นแบบ Full Body Workout ได้ หรือหากคุณมีกล้ามเนื้อที่พัฒนาช้ากว่ากล้ามเนื้อส่วนอื่นๆการเล่นแบบ Split Workout ก็จะสามารถจัดตารางการเล่นเผื่อแก้ไขกล้ามเนื้อส่วนนั้นได้ เช่นการเล่นกล้ามเนื้อส่วนนั้น 2 ครั้งต่ออาทิตย์ ฉะนั้นจะเลือกเล่นแบบไหนจึงขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการเล่นตอนนั้น.