นอนตอนกลางวันแล้วปวดหัว เป็นเพราะอะไรกันนะ ?

นอนตอนกลางวันแล้วปวดหัว เป็นเพราะอะไรกันนะ ?

 

 ไม่ว่าจะวัยทำงานหรือวัยเรียน หากมีช่วงเวลาว่าง ๆ ให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ก็เชื่อได้เลยว่าหลายคนถือโอกาสนี้นอนหลับยาว ๆ ไป เพราะอยากชาร์จแบตให้ตัวเองจริง ๆ ทว่าหลังจากนอนกลางวันไปแล้ว ต้องมาเจอกับอาการปวดหัวหลังตื่นนอนนี่สิ อาการนี่ถือว่าแย่เลยเนอะ แต่นั่นเป็นเพราะอะไร ทำไมเราถึงต้องปวดหัวหลังตื่นนอนกันด้วย มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยค่ะ

นอนกลางวันแล้วปวดหัว เพราะอะไรกันนะ?

 

สำหรับคนที่นอนกลางวัน ตั้งแต่ตอนแสงแดดยังจ้า ๆ แล้วตื่นมาตอนเย็น บรรยากาศโพล้เพล้ แสงแดดเริ่มอ่อนลงแล้ว ก็ไม่ต้องแปลกใจที่จะตื่นมาพร้อมอาการปวดหัว มึนศีรษะเป็นที่สุด เพราะการไหลเวียนเลือดในร่างกายและอุณหภูมิของตัวเรา จะปรับเปลี่ยน (เล็กน้อย) ตามอุณหภูมิของแสงภายนอก ซึ่งร่างกายเราจะรับแสงและเข้าสู่กระบวนการปรับตัวดังกล่าวได้จากการมองเห็น

ดังนั้นเมื่อเรานอนหลับ (หลับตา) ร่างกายจะปรับการไหลเวียนเลือดและอุณหภูมิอีกทีเมื่อเราลืมตาเห็นแสงกันเลย แล้วก็ปัง ! …ร่างกายจะรับรู้อัตโนมัติจากแสงที่อ่อนลง แล้วสั่งการสมองให้ปรับโทนหลอดเลือดตามเวลา และปรับอุณหภูมิร่างกายให้พอดีกัน ส่งผลให้หลอดเลือดเกิดการหดหรือขยายตัวอย่างทันทีทันใด จึงก่อให้เกิดอาการปวดหัวหรือบางคนก็หนักถึงเป็นไข้ได้เลย

นอนกลางวันแล้วปวดหัว มีวิธีป้องกันด้วยนะ

 

ถ้าคิดว่าตัวเองต้องหลับกลางวันแน่ ๆ ยังไงก็ไม่รอด เราก็มีวิธีป้องกันอาการปวดหัวหลังนอนกลางวันมาฝาก และก็คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีของคุณอย่างแน่นอนค่ะ

– ควรงีบหลับในช่วงระหว่าง 13.00-15.00 น. เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นาฬิกาชีวิตหรือวงจรการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ต้องการการพักผ่อน ร่างกายและสมองจะมีการตอบสนองช้าลง จึงเหมาะแก่การหลับลึกในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นอย่างดี

– ควรงีบหลับไม่เกิน 45 นาที เพราะถ้าหลับเพลินเกินกว่านั้น ร่างกายก็ต้องเหนื่อยกับการปรับตัวตอนตื่นกันอีกแล้ว ซึ่งนั่นก็จะทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างที่เคยเป็นได้ง่าย ๆ

– เปิดไฟนอนตลอดช่วงที่งีบหลับ เพื่อให้ร่างกายได้รับแสงอยู่เสมอ อีกทั้งการเปิดไฟนอนจะช่วยไม่ให้เราหลับลึกจนเกินเวลาด้วย

– จิบกาแฟก่อนงีบสัก 15 นาที คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการปวดหัวหลังตื่นนอนได้

– พยายามอย่ารับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเยอะจนเกินไป เพราะสุดท้ายร่างกายก็จะเปลี่ยนอาหารเหล่านี้เป็นน้ำตาล ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลให้คุณรู้สึกง่วงหนักมาก และตื่นมาพร้อมกับอาการอ่อนเพลียได้ ดังนั้นเลือกกินอาหารที่อุดมไฟเบอร์และอาหารที่ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมจะดีกว่า